Product description
เครื่องพิมพ์ยูวี Epson SC-V1030 เข้าใจใน หน้าเดียว
หลักการทำงานของหมึกยูวี (UV Ink) ใน เครื่องพิมพ์ยูวี คือการใช้หมึกพิเศษที่มีสารไวแสง (Photoinitiator) ผสมอยู่ เมื่อหมึกถูกพ่นลงบนวัสดุพิมพ์แล้ว เครื่องพิมพ์จะฉายแสงอัลตราไวโอเลต (UV-LED) ตามมาทันที แสง UV จะทำปฏิกิริยากับสารไวแสง ทำให้หมึกเกิดกระบวนการ พอลิเมอไรเซชัน (Polymerization) กลายเป็นเนื้อพลาสติกแข็ง (บ่มตัว) ยึดติดแน่นกับพื้นผิววัสดุในทันที ผลลัพธ์คืองานพิมพ์แห้งสนิททันที มีความคมชัด ทนทานต่อการขีดข่วน และสามารถพิมพ์ลงบนวัสดุได้หลากหลายชนิด.
ภาพตัวอย่างงานพิมพ์

พิมพ์UV ลงเคสหูฟัง

พิมพ์UV ลงลูกกอล์ฟ

พิมพ์UV ลงเคสมือถือ




เหมาะกับลูกค้ากลุ่มไหนบ้าง
1. 🎁 ธุรกิจของขวัญและของชำร่วยสั่งทำ (Custom Gifts)
เครื่องพิมพ์ยูวี SC-V1030 เป็นหัวใจสำคัญในการสร้างสรรค์ของขวัญพรีเมียมเฉพาะบุคคล เช่น การพิมพ์ลวดลายลงบนเคสโทรศัพท์ พวงกุญแจ หรือของที่ระลึกสำหรับงานอีเวนต์ เนื่องจากเครื่องมีความสามารถในการใช้ หมึกสีขาวและเคลือบเงา (Varnish) ทำให้ชิ้นงานมีมิติและดูหรูหรา สร้างความประทับใจให้กับผู้รับ
2. 🎨 สตูดิโอออกแบบ และผู้สร้างสรรค์สินค้าเฉพาะกลุ่ม
นักออกแบบสามารถใช้เครื่องนี้ในการสร้าง ต้นแบบ (Prototype) หรือสินค้า Limited Edition ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ด้วยความสามารถเครื่องพิมพ์ยูวี V1030 ในการพิมพ์บนวัสดุที่หนาถึง 70 มม. เช่น ไม้ อะคริลิก หรือแผ่นโลหะ ทำให้เกิดโอกาสในการทำสินค้า DIY และงานศิลปะขนาดเล็กที่มีเอกลักษณ์
3. 📱 ร้านซ่อม/ร้านค้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
สามารถเพิ่มบริการพิมพ์ลายหรือโลโก้บนอุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น เคส, อะแดปเตอร์ หรืออุปกรณ์ IT อื่นๆ เครื่องพิมพ์ยูวี V1030 ให้งานพิมพ์ที่แห้งทันทีและมีความทนทานสูงต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน จึงตอบโจทย์ความรวดเร็วและคุณภาพที่ลูกค้าต้องการได้เป็นอย่างดี
4. 🏷️ ผู้ผลิตป้ายและฉลากเฉพาะกิจ
เหมาะสำหรับงานผลิตป้ายชื่อพนักงาน ป้ายสัญลักษณ์ขนาดเล็ก ป้ายติดเครื่องจักร หรือการทำโลโก้ขนาดเล็กที่มีรายละเอียดสูงบนวัสดุแข็ง งานพิมพ์จากเครื่องพิมพ์ยูวี V1030 มีความคมชัดระดับสูงและความทนทานต่อรอยขีดข่วน ทำให้เป็นโซลูชั่นที่คุ้มค่าสำหรับงานป้ายพรีเมียมเฉพาะด้าน


วิดิโอจาก Epson Thailand
พิมพ์บนพื้นผิวที่หลากหลาย
ไม้ สแตนเลส อะคริลิค พลาสติก เซรามิก และอื่นๆ ธุรกิจต่างๆ เครื่องพิมพ์ยูวี V1030 สามารถจัดหาสินค้าแปลกใหม่ที่มีมูลค่าสูงซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเป็นส่วนตัว โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบตามความต้องการซึ่งหาไม่ได้ทั่วไป

สร้างภาพที่คมชัด มีมิติ เงางาม ด้วยสีวานิช

บนวัสดุที่หลากหลาย

สีขาว ที่สวยงาม มีมิติ มีความนูน สัมผัสได้
บำรุงรักษา และใช้งานง่าย
การบำรุงรักษาที่ปลอดภัย
ฟังก์ชันการทำความสะอาดหัวพิมพ์อัตโนมัติ เมื่อใช้ร่วมกับชุดปัดน้ำฝน จะทำความสะอาดและสะสมหมึก UV ที่บ่มแล้วลงในแท็งก์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยลดการสัมผัสกับหมึก
การไหลเวียนของอากาศภายใน
ด้วยตัวกรองอากาศในตัวสองตัวที่ช่วยลดกลิ่น ทำให้เครื่องพิมพ์มีความปลอดภัยในการทำงานในสภาพแวดล้อมแบบปิด
แผงแสดงผลขนาดใหญ่
จัดการและดูแลงานพิมพ์ของคุณ ตรวจสอบระดับหมึก และทำความสะอาดหัวพิมพ์ได้อย่างง่ายดายโดยใช้แผงจอแสดงผล LED แผงควบคุมยังช่วยให้มองเห็นได้สะดวกในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย
EPSON CLOUD SOLUTION PORT
ซอฟต์แวร์การจัดการกลุ่มเครื่องพิมพ์ที่ครอบคลุม นำเสนอมุมมองการผลิต การใช้อุปกรณ์ และรายละเอียดการบริการแบบเรียลไทม์ที่ปลอดภัย เพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มประสิทธิภาพเวิร์กโฟลว์การพิมพ์ของ Epson
วิดิโอที่น่าสนใจ
บทความ
ข้อมูลจำเพาะ
Max. Print Resolution
1,440 x 1,440 dpi
Print Speed
0.89 m²/h [720 x 720 dpi, 12 Pass Colour]
0.65 m²/h [1,440 x 720 dpi, 16 Pass Colour]
Graphic Mode
0.68 m²/h [Production, Colour]
0.50 m²/h [Quality, Colour]
Text Mode
0.68 m²/h [Production, Colour]
Number of Colours/Ink
6-colour UV Ink Packs
C M Y K W Vanish

Media Handing
Max. Print Area 212 x 229 mm
Max. Media Size 212 x 297 mm (A4)
Max. Media Thickness 70 mm
Max. Media Weight 3 kg
Printer Weight
Approx 59 kg [without ink pack]
กำลังปรับปรุง
ชวนคุยเรื่องของหมึกยูวี 6 สี ของ เครื่องพิมพ์ยูวี V1030
1. เม็ดสีจอมพลัง (Pigment Power):
-หมึกพิมพ์ทั่วไปก็มีเม็ดสี แต่หมึกยูวี โดยเฉพาะ หมึกสีขาว (White Ink) นี่แหละตัวแสบ! เม็ดสีที่ให้สีขาว เช่น ไททาเนียมไดออกไซด์ หรือสารประกอบอื่น ๆ เนี่ย เป็นผงอนุภาคเล็กๆ ที่มีความหนาแน่นค่อนข้างสูง (High Density)
-ลองนึกภาพว่ามีคนตัวใหญ่ๆ (เม็ดสี) ลอยอยู่ในน้ำเชื่อมหนืดๆ (เนื้อหมึก) ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานๆ โดยไม่มีใครกวน เด็กตัวใหญ่ๆ เหล่านั้นก็จะเริ่มรู้สึกว่า “อยู่ข้างบนเหนื่อยจัง” และค่อยๆ จมลงไปรวมตัวกันที่ก้นถังตามแรงโน้มถ่วง! นี่แหละที่เรียกว่า “การตกตะกอน (Sedimentation)”
-ยิ่งเป็นสีขาว ยิ่งเห็นชัด เพราะต้องใช้เม็ดสีที่มีความทึบสูงมากเพื่อให้สีทึบปิดพื้นผิวได้ดี ทำให้มีโอกาสตกตะกอนสูงกว่าสีอื่นๆ
2. เนื้อหมึกหนืด & ไม่มีตัวทำละลายช่วย (Viscosity & No Solvent):
-หมึกยูวีถูกออกแบบมาให้เป็นสูตรที่เกือบจะเป็น 100% Solid คือไม่มีตัวทำละลาย (Solvent) ที่ระเหยออกไปเหมือนหมึกอื่น ๆ พอไม่มีตัวทำละลาย ก็ทำให้หมึกมีความ หนืด (Viscosity) สูง
-แม้ความหนืดจะช่วยให้เม็ดสีลอยตัวได้ในตอนแรก แต่ถ้าหมึกนิ่งสนิทเป็นเวลานาน ความหนืดก็ต้านทานไม่ไหว เม็ดสีก็จะค่อยๆ ดิ่งลงสู่เบื้องล่าง และการรวมตัวกันก็จะทำให้เกิดเป็นก้อนตะกอนแข็งๆ ได้ง่ายกว่าหมึกที่มีตัวทำละลายที่ช่วยให้ส่วนผสมเข้ากันดีกว่า
-นิ่งนาน = หายนะ (Standing Still is Clogging) เมื่อไหร่ที่เครื่องพิมพ์ UV Flatbed ถูกปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานานๆ หรือไม่ได้มีการ วนหมึก (Circulation) เลย ก็เหมือนเป็นโอกาสทองให้แก๊งเม็ดสีรวมตัวกันเป็นปึกแผ่น และเมื่อพวกเขารวมตัวกันได้สำเร็จ ก็จะกลายเป็นก้อนแข็งๆ ที่ไปอุดตันทางเดินหมึกและที่สำคัญที่สุดคือ หัวพิมพ์ (Printhead) จนพังได้เลย!
*แนะนำให้ใช้งานเครื่องพิมพ์อย่างสม่ำเสมอ ถ้าไม่พิมพ์งานจริง ก็ Nozzle Check ลงกระดาษ A4 ทุกวันได้ยิ่งดี

ที่ใส่หมึกจะอยู่บริเวณฝั่งซ้ายล่างของเครื่องพิมพ์

มีแม่เหล็ก ปิดแป๊ก สวยงามและเปิดเพื่อเปลี่ยนหมึก
หรือเปิดเพื่อเขย่าหมึกได้ง่ายๆ

หมึกขาวจะอยู่ช่องบนสุด WH และจะมีการเขียนไว้ที่ถุงหมึกเลยว่า
ให้เขย่า 50 ครั้ง ซึ่งสีอื่นๆ ยกเว้น วานิซ เขย่าเพียง 20 ครั้ง ตอนติดตั้งเครื่อง
(ราคาถุงละ 2 พันกว่า แต่คุ้มค่า จริงๆ เพราะอะไรมาดูกัน)
Epson SureColor SC-V1030 ใช้ระบบแพ็คหมึก (Ink Pack System) 140ml ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องสัมผัสหมึกโดยตรง และ Epson ได้มีการพัฒนามาเพื่อมีคุณสมบัติในการลอยตัวของเม็ดสี (Pigment Suspension) ที่ดีกว่าเดิมสำหรับเครื่องพิมพ์ UV ขนาดเล็ก และ ระบบทำความสะอาดหัวพิมพ์อัตโนมัติ (Automatic Head Cleaning) เครื่องมีฟังก์ชันทำความสะอาดหัวพิมพ์อัตโนมัติเต็มรูปแบบ และมีระบบจัดการของเสีย (ผ้าเช็ดทำความสะอาดหัวพิมพ์และถังเก็บหมึก UV ที่สะสม) ซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ว่าแม้จะมีตะกอนสะสมเล็กน้อยก็จะถูกจัดการออกไปจากหัวพิมพ์อย่างสม่ำเสมอ

3. หมึก Epson UltraChrome UV (ที่ใช้ใน V1030) ได้รับการรับรอง GREENGUARD Gold
–ออกแบบมาเพื่อกลุ่มคนที่เปราะบาง: มาตรฐานระดับ Gold ถูกกำหนดขึ้นโดยคำนึงถึงกลุ่มคนที่มีความอ่อนไหวต่อมลพิษทางอากาศเป็นพิเศษ เช่น เด็ก และ ผู้สูงอายุ
–ลดความเสี่ยงของผู้ปฏิบัติงาน: ผู้ที่ใช้งานเครื่องพิมพ์ V1030 จะมีความเสี่ยงในการสัมผัสไอระเหยที่เป็นอันตรายน้อยกว่าการใช้หมึกที่ไม่ได้มาตรฐาน (เช่น หมึกจีนราคาถูกที่ไม่มีการรับรอง)
–คุณสามารถนำงานพิมพ์จากเครื่อง V1030 ไปใช้ในพื้นที่ที่อ่อนไหวได้ เช่น พิมพ์ของตกแต่งผนังในโรงพยาบาล, พิมพ์ป้ายในโรงเรียน หรือผลิตของใช้สำหรับเด็ก (ภายใต้เงื่อนไขการใช้งานที่เหมาะสม)
4. สลับร่างได้! เคลือบด้าน vs เคลือบเงา ในหมึก Varnish ตัวเดียว ของ Epson V1030
–“ด้าน” (Matte) และ “เงา” (Gloss) ไม่ได้มาจากการเปลี่ยนหมึก แต่มาจาก “การควบคุมการแข็งตัว” และ “การสร้างพื้นผิว” ในระดับจุลภาค (Micro-level)
4.1 การเคลือบด้าน (Matte Varnish) เหมาะกับ งานที่ต้องการความ เรียบหรู (Premium) ความเป็นทางการ งานที่ต้องการให้ภาพดูมีระดับ ไม่สะท้อนแสง และดู ซอฟต์ นวลตา (Subtle & Elegant) เคสโทรศัพท์, บรรจุภัณฑ์ที่ลูกค้าต้องจับถนัดมือ ลดการสะท้อนแสง (Anti-Glare) ทำให้มองเห็นรายละเอียดในที่แสงจ้าได้ง่าย, ซ่อนรอยนิ้วมือ และรอยขีดข่วนได้ดีกว่าเงา
หลักการ: เน้นการสร้างพื้นผิวที่ ขรุขระ (Micro-roughness) เล็กน้อยในระดับที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
วิธีทำ: สูตร Varnish ที่ใช้มักจะมีส่วนประกอบที่ช่วยสร้างความขรุขระอยู่แล้ว แต่เทคนิคสำคัญคือ “การควบคุมการแข็งตัว”
-อาจมีการ อบด้วยแสง UV ในระดับที่ต่ำกว่า (Lower Power) หรือ ช้าลง เล็กน้อย
-ในบางเทคนิค (แม้ไม่ใช่ V1030 โดยตรง แต่เป็นหลักการทั่วไป) คือการผสมสารที่เรียกว่า Matting Agents ที่เป็นอนุภาคเล็ก ๆ เข้าไปใน Varnish ซึ่งอนุภาคเหล่านี้จะถูกบังคับให้ลอยขึ้นและก่อตัวเป็นชั้นขรุขระบนพื้นผิว ก่อนที่ Varnish จะถูกอบให้แข็งตัว
ผลลัพธ์: พื้นผิวที่ขรุขระจะทำให้แสงที่ตกกระทบ กระจายออกไปทุกทิศทาง (Diffuse Reflection) ตาของเราจึงมองไม่เห็นความเงา แต่จะเห็นเป็นความนวล ความด้านแทน และทำให้สีดู ซอฟต์ลง เล็กน้อย
4.2 การเคลือบเงา (Gloss Varnish) เหมาะกับ โปสเตอร์, โบรชัวร์, ป้ายโฆษณา, งานโชว์ ผลิตภัณฑ์ที่ต้องการความสดใส ดึงดูดสายตา เช่น เครื่องสำอาง อาหารเสริม ของเล่น งานที่ต้องการให้สีสันดู สดใส คมชัด (Vibrant & Sharp) และเพิ่มมิติของความลึก เพิ่มความหรูหราแบบฉูดฉาด ป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีกว่าด้าน
หลักการ: เน้นการสร้างพื้นผิวที่ เรียบเนียนที่สุด
วิธีทำ: เครื่องพิมพ์จะฉีด Varnish ออกมาเป็นชั้นที่สม่ำเสมอ แล้วทำการ อบด้วยแสง UV ทันที (Full Power UV Curing) ขณะที่ Varnish ยังคงมีความหนืดและพื้นผิวยังคงเรียบอยู่
ผลลัพธ์: พอ Varnish แข็งตัวเต็มที่ พื้นผิวก็จะคงความเรียบเนียนเหมือนแก้ว ทำให้แสงที่ตกกระทบ สะท้อนออกไปในทิศทางเดียวกัน (Specular Reflection) ตาของเราจึงมองเห็นเป็นความเงาวาว และทำให้สีที่อยู่ข้างใต้ดู สดใสและเข้ม ขึ้น (Saturation)

หมึกเคลือบ Varnish จะอยู่ด้านล่างสุด

ทุกถุงจะมีที่ใส่ ซึ่งมีซี่ที่ไม่เหมือนกันดังนั้น
ไม่ต้องกังวลเรื่องการใส่หมึกสลับกัน ไม่เกิดขึ้น

และมีชิฟ คอยอ่านค่าหมึกที่เหลือในถุงอย่างแม่นยำ
ทำให้ไม่พลาดเรื่องการเปลี่ยนหมึก
ชวนคุยเรื่องของกล่อง Wiper ของ Epson V1030 (วิบากกรรมของผ้าเช็ดหัวพิมพ์!)
มันคือ ฮีโร่ผู้ปิดทองหลังพระ และเป็น ถังขยะส่วนตัว ของเครื่องพิมพ์ UV สุดไฮเทคอย่าง Epson V1030
หัวใจของการพิมพ์ UV คือ หัวพิมพ์ ที่ฉีดหมึกออกมาอย่างแม่นยำ แต่มันก็ต้องเผชิญกับศัตรูตัวฉกาจ 2 อย่างคือ
1.หมึก UV ที่แห้งไวเกินไป: แม้จะยังไม่โดนแสง UV เต็ม ๆ แต่หากหมึกโดนอากาศนานเกินไป อาจจะเริ่ม “กึ่งแห้ง” หรือ “เกาะ” อยู่รอบ ๆ ปากพ่น (Nozzle) ของหัวพิมพ์ ทำให้หมึกที่ฉีดออกมาไม่ตรงทิศทาง หรืออาจอุดตันได้
2.ฝุ่นและเศษวัสดุเล็ก ๆ น้อย ๆ: ในระหว่างการพิมพ์ อาจมีฝุ่นผง หรือละอองหมึกที่ฟุ้งกระจายไปติดรอบ ๆ หัวพิมพ์ได้

หน้าที่ของกล่อง Wiper
1.การทำความสะอาดตามปกติ (Routine Cleaning): เมื่อเครื่องพิมพ์ทำงานไปสักพัก หรือก่อน/หลังการพิมพ์ เครื่องจะสั่งให้หัวพิมพ์เคลื่อนที่มายังแท่นทำความสะอาด กล่อง Wiper จะทำงานเหมือน “กระดาษทิชชู่ส่วนตัว” หัวพิมพ์จะเคลื่อนผ่านผ้าเช็ด หรือใบมีดที่อยู่ภายในกล่องนี้ เพื่อ “รูด” เอาหมึกส่วนเกินที่เกาะอยู่รอบ ๆ ปากพ่นออกไป ทำให้ปากพ่นสะอาดพร้อมฉีดหมึกชุดต่อไปได้อย่างแม่นยำ
2.รองรับหมึกเสีย (Waste Ink Management): เวลาที่เราสั่ง “ล้างหัวพิมพ์ (Head Cleaning)” เพื่อดันหมึกเก่าที่อาจอุดตันออกไป หมึกจำนวนหนึ่งจะถูกฉีดออกมาเพื่อชะล้างระบบ กล่อง Wiper จะทำหน้าที่เป็น “อ่างรับน้ำเสีย” หมึกเสียที่ออกมาจากการล้างหัวพิมพ์ทั้งหมดจะถูกดูดซับเข้าไปในแผ่นซับหมึก (Absorbent Pad) ที่อยู่ในกล่องนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้หมึก UV สกปรกเหล่านั้นไปเลอะส่วนอื่น ๆ ของเครื่อง

ฝาปิด มีแม่เหล็กดูดแป๊ก สวยงาม

มีที่สอดมือดึง Wiper ออกมาและใส่กลับอย่างง่ายดาย

เวลาหัวพิมพ์จะเช็ดทำความสะอาด ก็จะเลื่อนมาเช็ด
และ Wiper จะดึงปาดสีที่ติดหัวออก
ชวนคุยเรื่องของ ปริศนา”ต้นทุนการพิมพ์”ของ Epson V1030
หมึก ถุงนึง 140 ml ราคาประมาณ 2,300 บาท (ทุกสีราคาเท่ากัน) X6 = 13,800 บาท >> คำถามคือ หมึกจะหมดมากหรือน้อยแค่ไหน ดูจากอะไร และสามารถรู้ล่วงหน้าได้ไหม?
1. ปริมาณหมึกที่ลงบนวัสดุ (Ink Coverage) :
-ไฟล์งานของคุณมีสีเต็มพื้นที่ 100% หรือเป็นแค่โลโก้เล็ก ๆ 20% ยิ่งพื้นที่สีมากเท่าไหร่ หมึกที่ใช้ก็จะมากขึ้นตามสัดส่วนนั้นครับ เช่น ถ้างานพิมพ์ Size A4 ใช้หมึกเต็ม ย่อมมีค่าหมึกแพงเป็น 2 เท่ากับ งาน Size A4 เท่ากันที่ลงหมึกเพียง 50%

ขนาดงาน Size A4 พิมพ์ เต็มพื้นที่

ขนาดงาน Size A4 พิมพ์ 50% ก็ถูกขึ้น 2 เท่า
(กรณี Layer & Pass เท่ากัน)
2. จำนวน Layer (ชั้น) และ Pass (ความหนา) ของงานพิมพ์ :
-หากเราพิมพ์บนวัสดุใสหรือวัสดุสีเข้ม เราจำเป็นต้องใช้ หมึกขาว (White Ink) เพื่อรองพื้นก่อนหนึ่งชั้น (Layer) และหากลูกค้าต้องการผิวสัมผัสแบบมันเงาหรือนูนแบบ 3D เราก็ต้องใช้ หมึกวานิช (Varnish) เพิ่มอีกหนึ่งชั้นหรือหลายชั้น
งาน 1 Layer: CMYK ธรรมดา (ถูกที่สุด)
งาน 2 Layers: White + CMYK (ต้นทุนเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า)
งาน 3 Layers ขึ้นไป: White + CMYK + Varnish (ต้นทุนจะสูงขึ้นกว่า 2 Layers)

โปรแกรมคำนวณเบื้องต้น 1 Layer ใช้กี่ ml

โปรแกรมคำนวณเบื้องต้น 2 Layer ใช้กี่ ml

โปรแกรมคำนวณเบื้องต้น 3 Layer ใช้กี่ ml
จำนวน Pass หรือคุณภาพงานพิมพ์
Pass คือจำนวนครั้งที่หัวพิมพ์วิ่งผ่านพื้นที่เดิม การเพิ่ม Pass จะช่วยให้เม็ดสีละเอียดขึ้น สีอิ่มตัวขึ้น และงานพิมพ์เรียบเนียนขึ้น
เมื่อคุณเลือก 32 Pass แทนที่จะเป็น 16 Pass ปริมาณหมึกที่ถูกพ่นลงไปจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยปกติแล้วอาจเพิ่มขึ้นถึง 1.5 ถึง 1.8 เท่า ดังนั้นการเลือกคุณภาพสูงสุดย่อมหมายถึงต้นทุนหมึกที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดครบ

สี 12 pass เทียบกับ 16 pass เข้มต่างกัน คมต่างกัน
3. ต้นทุนแฝงที่สำคัญที่สุด: หมึกบำรุงรักษา (Maintenance Ink Cost) :
การเตรียมพร้อมของหัวพิมพ์ (Nozzle Check & Priming): เมื่อคุณเปิดเครื่อง หรือเครื่องเข้าสู่สถานะพร้อมพิมพ์ หัวพิมพ์จะมีการพ่นหมึกปริมาณเล็กน้อยออกมาเพื่อ ตรวจสอบความสมบูรณ์ของหัวพิมพ์ และเพื่อให้แน่ใจว่าหัวพิมพ์มีหมึกพร้อมใช้งานทันที นี่คือการใช้หมึกเพื่อเตรียมพร้อมระบบ
การอุ่นเครื่อง/การหมุนเวียน (Warming Up/Circulation): ในบางจังหวะของการเปิดเครื่อง ระบบจะมีการหมุนเวียนหมึก $UV$ ภายในท่อเพื่อป้องกันไม่ให้หมึกตกตะกอนหรือข้นเหนียวในระหว่างที่เครื่องไม่ได้ใช้งาน ซึ่งเป็นการใช้พลังงานและการจัดการหมึกเพื่อให้พร้อมอยู่เสมอ
Wiper Cleaning (การเช็ด) ในกระบวนการเช็ด มักจะมีการ พ่นหมึกออกมาเล็กน้อย (Flushing) บนหัวพิมพ์ก่อนการเช็ด เพื่อให้หมึกใหม่มาช่วยชะล้างหมึกเก่าที่อาจเริ่มแห้ง หรือใช้หมึกใหม่นั้นเป็นตัวหล่อลื่นก่อนที่ Wiper จะเช็ดทำความสะอาด
การสั่งล้างหัวพิมพ์ด้วยมือ (Manual/Deep Cleaning): หากคุณเห็นว่ามีหัวพิมพ์ตัน (Nozzle Clogging) และสั่งให้เครื่องทำการล้างหัวพิมพ์แบบหนัก (Powerful Cleaning) กระบวนการนี้จะ ใช้หมึกเยอะที่สุด
การทำความสะอาดตามเวลาที่ตั้งไว้ (Scheduled Cleaning): หากเครื่องไม่ได้พิมพ์งานเป็นเวลานาน (เช่น 12 หรือ 24 ชั่วโมง) เครื่องอาจตั้งโปรแกรมให้มีการทำความสะอาดเบื้องต้นโดยอัตโนมัติ เพื่อป้องกันไม่ให้หมึกอุดตัน
การกู้คืนหัวพิมพ์ (Head Recovery): ในกรณีที่หัวพิมพ์ตันหนัก และต้องใช้ฟังก์ชันการกู้คืนหัวพิมพ์ (หากมี) ก็จะมีการใช้หมึกในปริมาณมากเช่นกัน
ชวนคุยเรื่องของ “ความสูง และวิธีวางวัสดุพิมพ์”
- ความสูง สูงสุดของวัสดุพิมพ์คือ 7 cm หรือ 70 mm
- พื้นที่พิมพ์ สูงสุด คือ 212×299 mm = ใหญ่กว่า A4 นิดหน่อย(210x297mm) แปลว่างานพิมพ์ขนาด A4 แบบไร้ขอบได้

ใช้ เวอร์เนีย วัด 1 รอบ ถ้าวัสดุ ไม่ได้เรียบสม่ำเสมอ

ใช้เครื่องพิมพ์วัดอัตโนมัติได้ง่ายๆ เครื่องจะดันฐานวางวัสดุลงแล้ว เลื่อนตัววัดพร้อมเซนเซอร์มาวัดวัสดุอย่างแม่นยำ

บันทึก รายการความสูงวัสดุได้สูงสุด 30 รายการเลยทีเดียว
**เครื่องสามารถวัดอัตโนมัติได้แม่นยำ บนวัสดุผิวเรียบอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม จะแนะนำให้กด วัด 2 รอบ เพื่อความชัวร์ และให้ดีที่สุดคือ ใช้เวอร์เนียวัดประกอบด้วยเพื่อให้เรา ไม่เสี่ยงต่อการที่ ป้อนความสูงผิด หรือ วัดอัตโนมัติผิดพลาด แล้วอาจส่งผลให้ หัวพิมพ์ขูดวัสดุพิมพ์ได้
**ถ้าวัสดุเบาเกินไป บางอัน เช่นของเล็กๆ ไม่มีน้ำหนัก ให้แปะเทปช่วยยึด กันโดนชนขยับ
กำลังปรับปรุง












Reviews
There are no reviews yet.